http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2554-03-22

ผีเสื้อกระพือปีก โดยวิษณุ โชลิตกุล

.
ผีเสื้อกระพือปีก
โดยวิษณุ โชลิตกุล คอลัมน์ กลับสู่อนาคต
ในมติชนสุดสัปดาห์ ออนไลน์ ฉบับวันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 31 ฉบับที่ 1596 หน้า 49


hualaem@hotmail_com เขียนว่า :

ถึง huaklom, hualiam, huakuay, huayik, huato, chihuahua

ริมถนนวงแหวน เชียงใหม่

ขอสารภาพยามห่างไกลจากเพื่อนทุกคนเพราะมีอันต้องร้างราจากบ้านไปต่างจังหวัดบ่อยครั้งนับแต่ปีใหม่เป็นต้นมาว่า ผมไม่เคยระย่อต่อมรสุมคำวิพากษ์ของเพื่อนๆ

ไม่ใช่เพราะถือคติดื้อด้านว่าตนเองเป็นกระท้อน ยิ่งทุบยิ่งหวาน

แต่เพราะผมมีอายุมายาวนานจนเชื่อมั่นโดยไม่ต้องเอาหัวชนกำแพงกับความรู้ของตัวเอง เกินกว่าจะยอมให้อารมณ์ความรู้สึกหรือจิตสำนึกสามัญมากำหนดกระบวนทัศน์ที่เป็นวิทยาศาสตร์ของตนเองได้

เดวิด ฮิวม์ นักปรัชญาจินตนิยมรุ่นเก่าเคยบอกว่า ความเหนือกว่าของศาสตร์แห่งการคำนวณเหนือศีลธรรมจรรยาอยู่ที่ว่ามันให้คำตอบที่มีเหตุผลและจับต้องได้มากกว่า การยึดมั่นกับป๋าชุมของผมก็เป็นไปทำนองเดียวกัน ไม่ได้เกิดจากความคิดเลื่อยเจื้อยเลื่อนลอยคิดเองเออเองทำนองฝันกลางวันแต่อย่างใด

อย่างน้อยที่สุด มันก็ทำให้ผมเลิกเชื่อถือ 5 ขั้นตอนประวัติศาสตร์ของทอยน์บีไปได้ระดับหนึ่ง แม้ว่าทอยน์บีจะสรุปเอาไว้ไม่ผิดเสียทั้งหมดก็ตามที

ข้อเท็จจริงของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมมุสลิมในแอฟริกาเหนือนับแต่ตูนิเซีย เรื่อยมาถึงอียิปต์ และลิเบีย ในหลายเดือนมานี้พิสูจน์ความเชื่อที่จับต้องได้ของผมเกี่ยวกับป๋าชุมเอาไว้ชัดเจนว่า การทำลายล้างอย่างสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ หากได้รับการสั่งสมเชิงปริมาณและคุณภาพที่มากเพียงพอจนเกิดสภาวะมวลวิกฤตขึ้นมาได้

หากสังคมมุสลิมทั้งสามแห่งสามารถเกิดมวลวิกฤตได้ คำถามว่าสังคมไทยจะเกิดมวลวิกฤตเมื่อใด ก็ไม่ควรถือว่าเกินหรือเหนือจริง มิใช่หรือ



ครั้งใดที่มีคนพูดถึงปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีกตามทฤษฎีพลวัตอลหม่าน คนจำนวนไม่น้อยจะโบ้ยให้พ้นตัวว่า นั่นมันแค่สำนวนลีลาแบบฮอลลีวู้ด

แต่หากย้อนทบทวนพลวัตของประวัติศาสตร์สังคมของมนุษยชาติเท่าที่บันทึกได้ รวมทั้งในรูปพงศาวดารหรือนิทานปรัมปรา จะเห็นแบบแผนที่ยืนยันโมเดลของการเปลี่ยนแปลงได้ว่า ปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากเกิดสภาวะมวลวิกฤตขึ้นมาในท่วงทำนองเดียวกับมวลวิกฤตทางด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ แต่อาจจะมีรายละเอียดของปัจจัยที่ผิดแผกกันไปเท่านั้น

ผมขอไม่พูดถึงรายละเอียดที่ยิบย่อยตามที่ปรากฏในหนังสือของ ฟิลิป บอลล์ เกี่ยวกับฟิสิกส์ทางสังคมในเรื่องการทดลองพฤติกรรมของฝูงลิงล้างเม็ดข้าวโพดหวานบนเกาะโคชิม่า ในญี่ปุ่นอันลือลั่น เพราะจะเป็นการดูถูกปัญญาของเพื่อนเปล่าๆ ปลี้ๆ

เอาเป็นแต่สรุปอย่างย่นย่อได้ว่า จำนวนวิกฤตซึ่งยากจะบอกได้ล่วงหน้าว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และไม่จำเป็นต้องมากกว่าครึ่งนั้น สามารถสร้างสภาวะมวลวิกฤตที่จะนำไปสู่โมเมนตัมให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์และพฤติกรรมของคนในสังคมทั้งหมด

ความไม่รู้ค่าที่แน่นอนในมวลวิกฤต บางคนอาจจะถือเป็นเคล็ดลับของสวรรค์ หรือ ความลับของเทวะ หรือ ปมกอร์เดี้ยน ฯลฯ

แต่สำหรับคนที่เชื่อในปรัชญาวิทยาศาสตร์แล้ว การทดสอบผิดถูกอย่างมีกระบวนการเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้เพื่อให้ความคลุมเครือกลายเป็นประกายปัญญา

วิชาความรู้ทั้งหลายอย่างคณิตศาสตร์ ตรรกวิทยา สถิติ หรือศาสตร์เชิงปริมาณอื่นๆ มีภารกิจหลักคือเปิดพรมแดนแห่งความรู้ให้มนุษย์ทะลุทะลวงเขาวงกตแห่งความโง่เขลาทุกรูปแบบที่ขวางกั้นความก้าวหน้าไปสู่อนาคต หรือพื้นที่แห่งตัวแปรไม่รู้ค่าที่หัวหยิกเคยกล่าวถึงมาก่อนแล้วนั่นเอง

แล้วมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกพิสดารอะไรเลยที่ภูมิปัญญาจากความรู้ด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์จะถูกนำไปประยุกต์เพื่อสร้างชุดอธิบายพลวัตทางสังคมของมนุษย์ด้วยการค้นหารหัสลับของตัวแปรไม่รู้ค่าที่ไขความลับแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดด้วยวิธีการที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นวิภาษวิธี โดยหลุดพ้นจากคำอธิบายเชิงคุณค่าว่าด้วยคุณธรรมส่วนบุคคลหรือศีลธรรมสังคม

หากเราเพิกเฉยที่จะเข้าใจถึงตัวแปรว่าด้วยมวลวิกฤตที่สามารถนำไปสู่ปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีกได้ คำอธิบายปรากฏการณ์สังคมที่คับแคบจำกัดให้เป็นเรื่องส่วนตัว

เช่น การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟเกิดขึ้นเพราะคำสาปของรัสปูติน หรือ หายนะของหลุยส์ที่ 16 แห่งราชวงศ์บูร์บองของฝรั่งเศสเกิดขึ้นเพราะมีพฤติกรรมทางเพศที่เบี่ยงเบน หรือราชวงศ์คอนบวงของพม่าล่มสลายเพราะสองมเหสีของกษัตริย์สีป่อแย่งอำนาจในราชสำนัก

หรือไม่ก็ใช้ตรรกะประวัติศาสตร์มหาบุรุษอธิบายการเปลี่ยนยุคสมัยต่างๆ เพื่อย้ำว่า หากขาดผู้นำที่มีบุคลิกภาพกึ่งบ้ากึ่งอัจฉริยะเสียแล้ว โลกจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย ฯลฯ


กุญแจสำคัญอันเป็นรหัสลับของมวลวิกฤตและปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีก อยู่ที่การเคลื่อนกระบวนทัศน์ ซึ่งในความเห็นของผมแล้ว มันมีพลังขับเคลื่อนมหาศาลทำนองเดียวกัน

เพราะการเคลื่อนกระบวนทัศน์นี้แหละ เคยทำให้เจ้าชายสิทธัตถะตัดสินใจละทิ้งราชสำนักในคืนที่ราหุลคลอดออกมา และทำให้พระเยซูคริสต์บอกกับสาวกชาวประมงด้วยความเชื่อมั่นว่า เลิกจับปลาเสียเถอะ มาจับคนดีกว่า แล้วก็ยังทำให้ มาร์ติน ลูเธอร์ สั่นสะเทือนศาสนจักรในวาติกันที่ขายใบไถ่บาป ด้วยการบอกว่า คริสเตียนทุกคนสามารถเข้าถึงพระเจ้าด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องผ่านนักบวชโรมันคาทอลิก

แล้วที่สำคัญ ทำให้คนตูนิเชียลุกขึ้นโค่นอำนาจของตระกูลเบน อาลีที่ครองอำนาจเผด็จการมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษภายในชั่วข้ามคืนอย่างง่ายดาย และทำให้สังคมอิสลามกับเสรีภาพกลับมาอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องเปล่งเสียงกู่ก้องโจมตีคุณค่าแบบตะวันตกอีกต่อไป

ถามเพื่อนๆ ที่เคารพทั้งหลายหน่อยเถอะว่า ผีเสื้อกระพือปีก มิใช่การทำลายล้างอย่างสร้างสรรค์ของป๋าชุมของผมที่ตรงไหน



หลายเดือนมานี้ผมเริ่มตกผลึกทางความคิดที่ลงรากลึกกว่าเดิม โดยยอมรับกันตรงๆ เสียก่อน ความวุ่นวายในหลายปีมานี้ของสังคมเรา เกิดจากมีกลุ่มคนโง่จำนวนน้อยที่อวดฉลาด (แบบเดียวกับคนที่ โธมาส มอร์ เคยกล่าวถึง) สมคบคิดกันอย่างหลงผิดว่า พวกเขาจะสามารถฉุดลากประวัติศาสตร์ให้ถอยหลังกลับไปสู่โมเดลของเศรษฐกิจบางสำนักอันคร่ำคร่าได้ ขอเพียงยึดกุมอำนาจและนำเสนอคำขวัญหยาบกระด้างเกี่ยวกับความพอดีสามานย์ได้สำเร็จจนมวลชนเคลิบเคลิ้มเหมือนเมาฝิ่น ด้วยเป้าหมายบ้องตื้นว่าจะสามารถกอบโกยค่าเช่าส่วนเกินจากการผูกขาดอำนาจไปได้ยาวนานโดยไร้แรงต้าน

มันทำให้ผมต้องเสียแรงกลับไปค้นคว้าหารากเหง้าของเศรษฐกิจบางสำนักทั้งในทางกว้างและลึกนานพอสมควรทีเดียวโดยเฉพาะเพื่อค้นหาว่ามันกลายเป็นแกนกลางของจิตสำนึกที่ไร้ยุคสมัยของผู้คนบางกลุ่มได้อย่างไรกัน

เศรษฐกิจบางสำนัก คือซากคร่ำคร่าที่เกิดจากการประดิษฐ์สร้างของชนชั้นปกครองยุคสัมฤทธิ์ ที่พยายามแสวงหาค่าเช่าส่วนเกินที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตของมวลชน โดยให้กลไกทุกรูปที่ก่อรูปขึ้นมาจากมายาคติเรื่องสมมติเทพผ่านกระบวนการสร้างและจัดการความมั่งคั่ง บนพื้นฐานการเก็บภาษีในรูปแรงงาน ผลผลิต และการค้าต่างตอบแทน

อำนาจรัฐที่สร้างขึ้นมาจากรากฐานความเชื่อทางศาสนาทั้งในฐานะอำนาจอ่อนและอำนาจดิบ ได้กำหนดและออกแบบให้บางสำนัก เป็นแกนกลางของกิจกรรมทางสังคมทุกด้านเพื่อรองรับการแบ่งปันที่ไม่เท่าเทียมกันของผู้คนในทุกมิติ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ กิจกรรมส่วนตัวของเจ้าแห่งสำนักนั้นได้กลายเป็นกิจกรรมแห่งรัฐโดยปริยาย


กล่าวโดยสรุปก็คือ โครงสร้างแบบวางแผนจากส่วนกลางอันเบ็ดเสร็จนั่นเอง เสรีภาพและยุติธรรมเป็นความฟุ่มเฟือยเกินกว่าจะยอมรับได้ภายใต้ระบอบดังกล่าว

น่าเสียดายที่เศรษฐกิจบางสำนักเช่นนี้ มีอายุแสนสั้นเพราะว่าการทำลายล้างที่สร้างสรรค์ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีการใช้เหล็กที่ทรงประสิทธิภาพกว่าหลายเท่าในทุกกิจกรรม นับแต่การเพาะปลูก จนถึงการสงคราม ได้กัดกร่อนให้เกิดการพังทลายของเศรษฐกิจบางสำนักจนไม่สามารถย้อนกลับคืนได้ เหลือไว้ก็แต่เพียงรูปการณ์จิตสำนึกที่ถ่ายทอดมายังชนชั้นผู้ปกครองที่ขูดรีดรุ่นต่อมา เพราะเชื้อชั่วไม่เคยตายเหี้ยนอยู่แล้ว

การพังทลายของเศรษฐกิจบางสำนักได้สร้างตำนานสำคัญที่มนุษย์เรียนรู้ในเวลาต่อมาเกี่ยวกับการล่มสลายอย่างเบ็ดเสร็จทางสังคม ถึง 4 ด้าน ที่กลายมาเป็นโมเดลต้นแบบของนักคิดทางสังคมร่วมสมัยของเราในปัจจุบัน ได้แก่

ความล้มเหลวที่จะแก้ปัญหาในตัวเอง


การสูญสิ้นพลังการรับมือความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ต้นทุนทางสังคมที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าความสามารถในการใช้ประโยชน์จากความซับซ้อนที่เกิดขึ้น และผลตอบแทนของสังคมที่ต่ำลงเมื่อเทียบกับการใช้ทรัพยากรในการแก้ไขปัญหาของระบอบ

หากเพื่อนๆ รู้จัก โจเซฟ เท็นเทอร์ ก็คงจะคุ้นเคยกับโมเดลแห่งการล่มสลายของระบอบสังคม 3 แบบคือ แบบไดโนเสาร์ แบบรถด่วนไร้หัว และวัฒนธรรมการพนัน ซึ่งอย่างหลังสุดนี้ อเล็กซิส เดอะ ท็อกเกอร์วิลล์ เคยกล่าวเอาไว้ชัดเจนว่า จะสามารถป้องกันได้ด้วยหนทางเดียวเท่านั้นคือ เปิดช่องให้กับการเลื่อนชั้นทางสังคมเพื่อป้องกันพฤติกรรม "พากันไปฆ่าตัวตาย" ของชนชั้นปกครองที่หมดความสามารถในการสร้างเกราะป้องกันความปลอดภัยให้สมาชิกส่วนใหญ่ในสังคม

เภทภัยของเศรษฐกิจบางสำนักที่ชัดเจนจนไม่ต้องพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำอีกเช่นนี้ คือเหตุผลเบื้องหลังพลวัตของประวัติศาสตร์มนุษยชาติได้ดีที่สุดว่า เหตุใดชาติที่ก้าวไปข้างหน้าจึงยอมละทิ้งเศรษฐกิจบางสำนักไปเกือบหมดสิ้นในยุคสมัยนี้

ตัวอย่างจากรัฐธรรมนูญของภูฏานอันก้าวหน้า ที่ทำให้ผมต้องขนลุกกับวิสัยทัศน์อันยาวไกลของ ซิกเย่ วังชุก



ผมคงจะไม่ต้องอ้างอิงผู้มีปัญญามากกว่านี้อีกเพื่อจะหาข้อมูลสนับสนุนว่า เจตจำนงของคนที่ดื้อรั้นฝืนประวัติศาสตร์ มีส่วนทำให้ความก้าวหน้าของสังคมที่เราอาศัยอยู่ต้องเผชิญกับพลวัตลุ่มๆ ดอนๆ บนความล้มเหลวในย่างก้าวสู่การเป็นสังคมอุตสาหกรรมและหลังอุตสาหกรรมที่ก้าวหน้า และทำให้เกิดวาทกรรมที่ซ้ำซากเกี่ยวกับกระบวนการโฆษณาชวนเชื่อแบบยอยศพระลอที่น่าเวทนา ท่ามกลางความปริร้าวของคนทั่วสังคม โดยเฉพาะคนที่แสวงหาเสรีภาพและยุติธรรมซึ่งถอยห่างออกไปทุกขณะในอัตราเร่ง

ผมมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะคิดและเชื่อได้โดยไม่ต้องคาดเดาว่า การล่มสลายของสังคมเก่าในลักษณะทำลายล้างอย่างสร้างสรรค์ของป๋าชุมเป็นธงนำความคิดที่ค่อนข้างแน่ชัด

ใครจะกล้าท้าพิสูจน์กับผมบ้างว่า ปรากฏการณ์เคลื่อนกระบวนทัศน์ในโลกอิสลามร่วมสมัยยามนี้ จะไม่ส่งผลสะเทือนให้เกิดมวลวิกฤตและผีเสื้อกระพือปีกในสังคมของเรา



โธมัส คุห์น นักประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์อเมริกัน ผู้ให้นิยามการเคลื่อนกระบวนทัศน์ ยืนยันว่า ปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีกทุกชนิด คือการปฏิวัติที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจได้ง่ายดายนัก

เพราะมุมมองของมนุษย์โดยทั่วไปมักจะติดยึดกับกระบวนคิดแบบกับดักของพลาโต้ คือ เอาข้อมูลในอดีตมาทำนายอนาคต ทำให้มองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากตัวแปรใหม่ ซึ่งส่งผลท่วมท้นที่ยากต่อการควบคุมด้วยกระบวนการเดิมๆ ที่คุ้นเคย

สิ่งที่มนุษย์ผู้โง่เขลามักกระทำเสมออย่างหลงผิดเมื่อถูกท้าทายจากความไม่คุ้นเคยและตัวแปรไม่รู้ค่าคือ ทำการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่รู้จักปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีกได้ดีเพียงพอ

เพื่อนรักของเราอย่างหัวทื่อ ก็เคยมีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน จนทำให้เกิดอาการขัดเคืองกับผมหลายครั้ง แต่ล่าสุดที่ผมได้ไปเยี่ยมเขาที่ห้องพักฟื้นภายใต้การดูแลอย่างดีของญาติ และการอนุเคราะห์ของหัวกลม เขายอมรับกับผมว่า ป๋าชุมของผมอาจจะมีส่วนถูกมากกว่าผิด เขาอาจจะต้องกลับไปศึกษาให้รอบคอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ทำให้ผมดีใจกี่มากน้อยที่มีคนเข้าใจผมมากขึ้น

เพราะสิ่งที่หัวทื่อเล่าให้ผมฟังนั้น มันบังเอิญไปคล้องจองกับข่าวเจ้าเสี่ยคนเดินทางไปพบปะอย่างลับๆ กับอ้ายแม้วที่ดูไบด้วยเรื่องที่ปิดกันให้แซ่ดพอดิบพอดี

นี่ก็อาจจะเป็นมวลวิกฤตอีกแบบหนึ่งรึเปล่า ผมเองไม่มั่นใจ แต่หัวเหลี่ยมที่ไปพร้อมกับผม สามารถเล่าและยืนยันได้ดีกว่าผมหลายเท่า

ลองสอบถามกันดูเอาเถอะ ผมพูดไปอาจจะผิดพลาดได้ ไม่เหมือนนักบัญชีหญิงผู้ละเมียดละไม

หัวแหลม ศิษย์ป๋าชุม

.